เป็นธุรกิจที่ให้บริการจัดหาเงินทุน (Financing)

ในการจัดหาทรัพย์สินประเภททุนที่กิจการต่างๆต้องการนำมาใช้ในการผลิตหรือการดำเนินงาน ในลักษณะของการให้เช่าทรัพย์สินนั้นแทนการซื้อ โดยผู้เช่า (Lessee) จะต้องเป็นผู้เลือกจัดหาและตกลงราคากับผู้จำหน่ายหรือผู้ผลิตโดยตรง แล้วจึงจะจัดหาแหล่งเงินในการซื้อทรัพย์สินซึ่งก็คือผู้ให้เช่า (Lessor) ซึ่งปกติแล้วจะเป็นบริษัทลีสซิ่ง เมื่อกิจการติดต่อบริษัทลิสซิ่งได้แล้ว บริษัทลิสซิ่งก็จะทำการซื้อทรัพย์สินที่ผู้เช่าต้องการโดยคิดค่าเช่าจากผู้เช่าตามจำนวนเงินและระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยมากแล้วทรัพย์สินที่ให้เช่าแบบลิสซิ่งนี้จะกำหนดระยะเวลาอย่างน้อย 3 ปีขึ้นไป

 ระบบการเช่าแบบลิสซิ่ง

1. ผู้เช่า (นิติบุคคล) ตรวจสอบราคาและหาผู้จำหน่ายทรัพย์สินที่ต้องการเช่า
2. ผู้เช่า (นิติบุคคล) แจ้งความจำนงในการเช่าทรัพย์สินกับบริษัทผู้ให้เช่า (บริษัทลิสซิ่ง)
3. ผู้ให้เช่า (บริษัทลิสซิ่ง) จะวิเคราะห์ฐานะการเงินของกิจการผู้เช่าและดำเนินการจัดทำสัญญาเช่าลิสซิ่งระหว่างผู้เช่าและผู้ให้เช่าตามเงื่อนไขที่ได้ตกลงกัน
4. ผู้ให้เช่า (บริษัทลิสซิ่ง) จะทำใบสั่งซื้อและสัญญาซื้อขายทรัพย์สินนั้นกับผู้จำหน่ายทรัพย์สินนั้น
5. เมื่อผู้ให้เช่า (บริษัทลิสซิ่ง) ได้รับทรัพย์สิน ผู้จำหน่ายจะวางบิลใบแจ้งหนี้เพื่อเรียกเก็บเงิน
6. ผู้ให้เช่า (บริษัทลิสซิ่ง) จะชำระเงินค่าซื้อทรัพย์สินที่ให้เช่าแก่ผู้จำหน่าย
7. ก่อนจะส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าจะให้ผู้เช่าทำการชำระค่าเบี้ยประกันโดยยกผลประโยชน์ให้แก่ผู้ให้เช่า ผู้เช่าจะชำระเงินค่างวดตามสัญญาเช่าโดยปกติแล้วนิยมเรียกเก็บเช็คล่วงหน้าจากผู้เช่า
8. ผู้เช่าจะต้องชำระค่าเบี้ยประกันทุกปีเป็นการต่ออายุประกันภัยทรัพย์สิน
9. ผู้เช่ามีหน้าที่ซ่อมแซมบำรุงรักษาทรัพย์สิน ตลอดจนรับประกันหรือค้ำประกัน หรือต่อทะเบียนทรัพย์สินนั้น
10. เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าผู้เช่าจะต้องแจ้งความจำนงไปยังผู้ให้เช่าว่าจะเช่าทรัพย์สินนั้นต่อไป หรือ ซื้อทรัพย์สินนั้น หรือไม่ประสงค์จะเช่าต่อไปอีก

 

ตัวอย่างการบันทึกบัญชีของธุรกิจลิสซิ่ง

 

สัญญาเช่าลักษณะลงทุน (Capital Lease)

 

ผู้เช่า

ผู้ให้เช่า

 

1. ผู้เช่ามีความประสงค์ที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่เช่า

   ได้ทำสัญญากับผู้ให้เช่า

1. เมื่อผู้ให้เช่าได้ทรัพย์สินมาและตกลงการเช่ากับผู้เช่า

                                                                        บันทึกเมื่อมีการซื้อทรัพย์สินมา

Dr. ทรัพย์สิน

Cr. เงินสด

 

บันทึการเช่าทรัพย์สิน                                                       บันทึการให้เช่าทรัพย์สิน

Dr. ทรัพย์สิน  

Dr. ลูกหนี้-ทรัพย์สินให้เช่า

Cr. หนี้สินตามสัญญาเช่า

Cr. ทรัพย์สิน

 

2. เมื่อผู้เช่าชำระเงินค่าเช่าพร้อมดอกเบี้ย

2. เมื่อผู้ให้เช่าได้รับเงินค่าเช่าพร้อมดอกเบี้ย

 

 Dr. ดอกเบี้ยจ่าย

 Dr. เงินสด

  หนี้สินตามสัญญาเช่า

Cr. ดอกเบี้ยรับ

Cr. เงินสด

 ลูกหนี้-ทรัพย์สินให้เช่า

 

3. เมื่อสิ้นงวดจะคิดค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินตัดเป็นค่าใช้จ่าย

3.  เมื่อสิ้นงวดบัญชีไม่มีการคิดค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน

         

4. เมื่อสิ้นสุดสัญญา ทรัพย์สินจะเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เช่า

4. เมื่อสิ้นสุดสัญญา ทรัพย์สินจะเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เช่า

 

สัญญาเช่าเพื่อใช้ทรัพย์สิน (Operating Lease)

 

ผู้เช่า

ผู้ให้เช่า

 

1. ผู้เช่าไม่ประสงค์ที่จะเป็นเจ้าของทรัพย์สินที่เช่า

ได้ทำสัญญาเช่ากับผู้ให้เช่า

1. เมื่อผู้ให้เช่าได้ทรัพย์สินมาและตกลงการเช่ากับผู้เช่า

  พร้อมกับได้รับเงินค่างวด

 

บันทึกเมื่อมีการซื้อทรัพย์สินมา

Dr. ทรัพย์สิน

Cr. เงินสด

 

บันทึการเช่าทรัพย์สิน                                                       บันทึการให้เช่าทรัพย์สิน

Dr. ค่าเช่า

 Dr. เงินสด

Cr. เงินสด

Cr. รายได้ค่าเช่า

 

2. ผู้เช่าจะไม่คิดค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน

เนื่องจากไม่มีกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น

 

 

2.  ผู้ให้เช่าคิดค่าเสื่อมราคาทรัพย์สินเมื่อสิ้นงวด

Dr. ค่าเสื่อมราคา

Cr. ค่าเสื่อมราคาสะสม

 

 

3. เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าผู้เช่าจะส่งมอบ

ทรัพย์สินที่เช่าคืนให้แก่ผู้ให้เช่า

3. เมื่อสิ้นสุดสัญญาเช่าจะได้รับทรัพย์สินคืนจากผู้เช่า

 

 

 

ตัวอย่างการใช้งานในโปรแกรมเอ็กซ์เพรส

กรณีตัวอย่างต่อจากนี้จะเป็นสัญญาเช่าลักษณะลงทุน ส่วนสัญญาเช่าเพื่อใช้ทรัพย์สินจะไม่ขอกล่าวถึงเพราะการใช้งานนั้น เป็นการบันทึกบัญชีรายได้อื่นๆ โดยทั่วไปตามปกติ (ตามตัวอย่างการบันทึกบัญชีหัว ข้อที่ผ่านมา)

บริษัท นานาลิสซิ่ง จำกัด ได้ให้เช่าเครื่องจักรมีระยะเวลา 3 ปี โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2550 มูลค่าของเครื่องจักรราคาทุน 1,000,000 บาท การจ่ายค่าเช่าจะต้องจ่ายทุกต้นปี ผู้ให้เช่าได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยในอัตรา 12%

 

คำนวณหาอัตราค่าเช่าต่อปี

 

1,000,000

=        1,000,000

Present value fo annuity due of 1, 12% 3 ปี        

  2.69005

 

=        371,740.30

* คำนวณหาค่าดอกเบี้ย

=        หนี้สินคงค้างในแต่ละปี * 12%

 

ตารางการคำนวณค่าเช่า

 

 

 

 

วันที่

ค่าเช่ารายปี

ดอกเบี้ย 12%

เพิ่ม/ลดยอดหนี้สิน

หนี้สินคงค้าง

01/01/50

 

 

 

1,000,000.00

01/01/50

371,740.30

 

(371,740.30)

628,259.70

31/12/50

 

75,391.16*

75,391.16

703,650.86

01/01/51

371,740.30

 

(371,740.30)

 331,910.56

31/12/51

 

39,829.27*

39,829.27

371,739.83

01/01/52

371,740.30

 

(371,740.30)

 0.00

 

1,115,220.90

115,220.43

 

(ปัดเศษสตางค์)

 

การใช้งานด้านผู้ให้เช่า (บริษัทลิสซิ่ง)

 กำหนดรายละเอียดเบื้องต้นในโปรแกรม

1. กำหนดเลขที่บัญชีที่จะต้องใช้ในการทำรายการที่ เมนูบัญชี ข้อ 2. ผังบัญชี

 

บัญชี

หมวด

เลขที่บัญชี

ลูกหนี้ตามสัญญาเช่า

สินทรัพย์

1130-05

เครื่องจักร

สินทรัพย์

1410-06

รายได้ค่าดอกเบี้ยตามสัญญาเช่า

รายได้

4200-01

 

lea-01

 

2. ตั้งรหัสผู้เช่าที่ เมนูขาย ข้อ 6. รายละเอียดลูกค้า

 

lea-02

 

3.ตั้งรหัสผู้จำหน่าย เพื่อใช้ในการซื้อทรัพย์สิน ที่ เมนูซื้อ ข้อ 6.รายละเอียดผู้จำหน่าย

 

lea-02-02

 

4.        ตั้งรหัสรายได้ดอกเบี้ยตามสัญญาเช่าและ รหัสสินทรัพย์ (เครื่องจักร)   ที่ เมนูสินค้า ข้อ 4. สินค้าบริการ

 

lea-04

 

lea-03

 

ขั้นตอนในการทำงาน

1. ซื้อทรัพย์สินที่ต้องการจะให้เช่าจากผู้จัดจำหน่าย (1/1/50)ที่ เมนูซื้อ ข้อ 2. ซื้อเงินสด

 

lea-05

 

โดยโปรแกรมจะบันทึกบัญชีแบบ Perpetual และ แบบ Periodic เหมือนกัน

leagl01

 

หมายเหตุ ไม่ต้องบันทึกรายการทรัพย์สินที่ เมนูบัญชี B (สัญญาลักษณะลงทุน กรรมสิทธิ์จะเป็นของผู้เช่า)

 

2. ทำสัญญาเช่าทรัพย์สินปีที่1 ที่ เมนูขาย ข้อ 4. ขายเงินเชื่อ

 

lea-06

 

โดยโปรแกรมจะบันทึกบัญชีแบบ Perpetual และ แบบ Periodic เหมือนกัน

leagl02

 

พร้อมกับรับชำระค่าเช่าปีที่ 1 ที่ เมนูการเงิน ข้อ 1. รับเงิน ข้อ 5. รับชำระหนี้

 

lea-07

 

โดยโปรแกรมจะบันทึกบัญชีแบบ Perpetual และ แบบ Periodic เหมือนกัน

leagl03

 

3. บันทึกรายได้ดอกเบี้ยรับ (31/12/50) ที่เมนูขาย ข้อ 4. ขายเงินเชื่อ

 

lea-08

 

โดยโปรแกรมจะบันทึกบัญชีแบบ Perpetual และ แบบ Periodic เหมือนกัน

leagl04

 

4. ไม่ต้องการทำการบันทึกค่าเสื่อมราคา

 

5..การดูรายงาน

รายงาน 712 ดูยอดขาย แต่ละสินค้า และจะดูเป็นดอกเบี้ยรับก็ได้ขึ้นอยู่กับระบุสินค้าที่รายงาน

lea-17

 

รายงาน 1A2 ดูว่าบิลขายที่เปิดมีการรับชำระหนี้บางส่วนมาเท่าไหร่ และเหลือเท่าไหร่

lea-18

 

การใช้งานด้านผู้เช่า (บริษัทนิติบุคคล)

 กำหนดรายละเอียดเบื้องต้นในโปรแกรม

1. กำหนดเลขที่บัญชีที่จะต้องใช้ในการทำรายการที่ เมนูบัญชี ข้อ 2. ผังบัญชี

 

บัญชี

หมวด

เลขที่บัญชี

เครื่องจักร

สินทรัพย์

1410-06

ค่าเสื่อมราคาสะสม-เครื่องจักร

สินทรัพย์

1420-06

หนี้สินตามสัญญาเช่า

หนี้สิน

2400-00

ค่าเสื่อมราคา-เครื่องจักร

ค่าใช้จ่าย

5340-06

ดอกเบี้ยจ่าย

ค่าใช้จ่าย

5370-01

 

lea-09

 

 

2. ตั้งรหัสผู้ให้เช่าที่ เมนูซื้อ ข้อ 6. รายละเอียดผู้จำหน่าย

 

lea-10

 

 

3. กำหนดกลุ่มบัญชีทรัพย์สินที่ เมนูเริ่มระบบ ข้อ 1.8.2  กำหนดกลุ่มบัญชีทรัพย์สิน

 

lea-11

 

4. กำหนดรายละเอียดทรัพย์สินที่จะเช่าที่ เมนูสินค้า ข้อ 4. สินค้าบริการ

 

lea-03

 

5. กำหนดรายละเอียดดอกเบี้ยจ่ายที่ เมนูซื้อ ข้อ 7. รายละเอียดค่าใช้จ่ายอื่นๆ

 

lea-12

 

ขั้นตอนในการทำงาน

1. บันทึกรายการเครื่องจักรตามสัญญาเช่า ปีที่ 1 (01/01/50) ในเมนูซื้อ ข้อ  4. ซื้อเงินเชื่อ

 

lea-13

 

โดยโปรแกรมจะบันทึกบัญชีแบบ Perpetual และ แบบ Periodic เหมือนกัน

leagl05

 

พร้อมกับจ่ายชำระค่าเช่าปีที่ 1 ที่ เมนูการเงิน ข้อ 2. จ่ายเงิน  ข้อ 4 . จ่ายชำระหนี้

lea-14

 

โดยโปรแกรมจะบันทึกบัญชีแบบ Perpetual และ แบบ Periodic เหมือนกัน

leagl06

 

2. คิดค่าเสื่อมราคาทรัพย์สิน เมนูบัญชี  ข้อ B .รายการทรัพย์สิน

 

lea-15

 

โดยโปรแกรมจะบันทึกบัญชีแบบ Perpetual และ แบบ Periodic เหมือนกัน

leagl07

                 

3. บันทึกดอกเบี้ยจ่ายปีที่ 1 (31/12/50) ี่ เมนูซื้อ  ข้อ 4. ซื้อเงินเชื่อ

 

lea-16

 

โดยโปรแกรมจะบันทึกบัญชีแบบ Perpetual และ แบบ Periodic เหมือนกัน

leagl08

 

4.การดูรายงาน

รายงาน 2A2 ดูว่ามียอดค้างกับเจ้าหนี้เท่าไหร่

lea-19

 

รายงาน 5B3 ดูประวัติสินทรัพย์

lea-20